1. หลักการและเหตุผล
บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องที่มอบให้แก่บริษัทฯด้วยความไว้วางใจ โดยบริษัทฯจะใช้วิธีการที่เหมาะสมในการจัดการ คุ้มครอง และการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ทั้งเรื่อง การจัดเก็บ นำไปใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงการติดต่อ การจัดหาสินค้า การให้บริการ การตอบคำถามหรือข้อร้องเรียน การให้ข้อมูล การแจ้งข่าวสินค้าและบริการ รวมทั้งโปรโมชั่นที่บริษัทฯหรือบุคคลภายนอกที่ได้รับการคัดเลือกโดยบริษัทฯจัดให้มีขึ้น ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ
2. วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตามกระบวนการและเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อาทิ การให้ความยินยอม กระบวนการบริหารจัดการข้อมูลเพื่อรองรับการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล รวมถึงการเก็บรวมรวม การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นไปตามแนวทางปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) สำหรับลูกค้า พนักงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
2.2 เพื่อให้พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และบุคคลที่เกี่ยวข้องทราบถึงบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง
2.3 เพื่อการทำรายการตามผู้ใช้บริการประสงค์ เช่น กรณีผู้ใช้บริการลงทะเบียนขอรับข้อมูลและโปรโมชั่น บริษัทฯ จะจัดเก็บและใช้เฉพาะข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ นามสกุล Email หมายเลขโทรศัพท์ เพื่อใช้สำหรับการติดต่อกลับ หรือ กรณีการจองออนไลน์ (Online Booking) บริษัทฯจะทำการจัดเก็บและใช้ข้อมูลที่จำเป็นในการออกเอกสารสำคัญสำหรับการทำรายการจอง
2.4 เพื่อการแก้ไข ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ การจัดทำแผนการตลาด วิเคราะห์ข้อมูลการใช้ ประเมินการบริการ รวมถึงการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และการบริการของบริษัทฯ
2.5 เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัทฯ รวมถึงสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่น ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และบริการดังกล่าว
2.6 บริษัทฯจะไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เว้นแต่ เป็นการใช้หรือเปิดเผยเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น หรือ ได้รับความยินยอมจากผู้ใช้บริการ หรือ บริษัทฯปฏิบัติตามคำสั่งศาลหรือ ที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น
3. นิยาม
ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การให้บริการแก่ผู้ใช้บริการของบริษัทฯ ซึ่งมีข้อกำหนดให้ผู้ใช้บริการต้องยื่นคำขอก่อนดำเนินการใดๆ เช่น การอนุญาต การอนุมัติ เป็นต้น
ผู้ใช้บริการ หมายถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเป็นประชาชนที่ใช้บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์โดยตรงผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือใช้บริการอื่นใดของบริษัท ฯด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
บริษัท หมายถึง บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)
Website หมายถึง สื่อนำเสนอข้อมูลของบริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) บนเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นการรวบรวม หน้าเว็บเพจหลายหน้า ซึ่งหน้าเว็บไซต์ถูกสร้างขึ้นด้วยเพื่อเป็นช่องทางการตลาด และเพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้าให้มากขึ้น
Mobile Application หมายถึง การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต โดยโปรแกรมจะช่วยตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน และเพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น
คุกกี้ (Cookies) หมายถึง ข้อมูลที่ได้ส่งจากเว็บไซต์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ในขณะที่ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้นๆ
4. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
4.1 ลูกค้า ที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการบ้าน/คอนโด และมีการกรอกข้อมูลให้บริษัทฯผ่านช่องทางต่างๆ เช่น แบบฟอร์ม หรือผ่านบริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อดำเนินการเรื่องต่าง ๆ อาทิ สอบถามความพึงพอใจ จองสิทธิ์ จองบ้าน ทำสัญญา หรือความประสงค์อื่น ๆ โดยบริษัทฯจะจัดเก็บเฉพาะข้อมูลที่ผู้ใช้บริการยินดีให้ข้อมูลไว้ อาทิ ชื่อและที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ E-Mail Address และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า เพื่อใช้จอง ทำสัญญา โอนกรรมสิทธิ์ ประชาสัมพันธ์โครงการใหม่ หรือดำเนินการตามเรื่องที่ลูกค้าแจ้ง
4.2 บริษัทฯมีการจัดเก็บข้อมูลของพนักงานผ่านกระบวนการสรรหาว่าจ้างบุคลากร โดยฝ่ายบุคคล
4.3 บริษัทฯมีการจัดเก็บข้อมูลของผู้ใช้บริการทุกท่านผ่านเว็บไซต์บริษัทฯ, Mobile Application ซึ่งในเว็บไซต์หรือ Application ได้มีการจัดเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการผ่านอินเตอร์เน็ต เช่นการรับชำระเงินงวดดาวน์บ้าน/คอนโด การลงทะเบียนเพื่อจองสิทธิ์ซื้อบ้าน/คอนโด หรือขอรับสิทธิประโยชน์จากบริษัทฯ โดยข้อมูลที่ทางบริษัทฯได้จัดเก็บ เช่น User Name, Email, เบอร์โทรศัพท์ และที่อยู่ เป็นต้น
ทั้งนี้บริษัทฯมีสิทธิใช้คุกกี้ (Cookies) เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลเช่น
- หมายเลขไอพี (IP Address)
- เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ที่ใช้ในการเข้าถึง
- หน้าเว็บ (Web Page) ที่เข้าเยี่ยมชม
- เว็บไซต์ที่อ้างถึงเว็บของบริษัทฯ เป็นต้น
นโยบายคุกกี้ (Cookies Policy) รายละเอียดแสดงไว้บนเว็บไซต์ (Website) ของบริษัท
4.4 บริษัทฯดำเนินการรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในกิจกรรมของระบบเว็บไซต์หรือกิจการของบริษัทฯ สำหรับการดำเนินงานของบริษัทฯอย่างถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น โดยการนำข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งข้อมูลตัวตนและข้อมูลด้านพฤติกรรมของผู้ใช้บริการ เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการดูแลการเข้าร่วมในการแข่งขัน โปรโมชั่น ปรับปรุงระบบเว็บไซต์ ระบบงานที่เชื่อมโยง การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ใช้สำหรับส่งจดหมายข่าวในโอกาสต่างๆ ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการหรือบริการในโอกาสต่างๆ และเพื่อใช้ในการทำธุรกรรมของผู้ใช้บริการให้สำเร็จลุล่วงในการใช้บริการระบบเว็บไซต์
5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น และในระยะเวลานานเท่าที่จำเป็นตามอายุความที่กฏหมายกำหนดเพื่อการเรียกร้อง/ฟ้องร้อง รวมทั้งต่อสู้คดีตามสิทธิ์ของสัญญา
6. การรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
เพื่อประโยชน์ในการรักษาความลับและความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ได้กำหนดระเบียบภายในหน่วยงานเพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าถึงหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล โดยพนักงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญและรับผิดชอบในการจัดเก็บ ใช้ เปิดเผยข้อมูล และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้จัดเก็บตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
7. มาตรการรักษาความลับของข้อมูล
บริษัทฯมีแนวทางในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลทั้งในด้านเทคโนโลยีและกระบวนการทำงาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลของส่วนบุคคลของพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า จะปลอดภัยด้วยมาตรการต่างๆ ในการปกป้องข้อมูล ดังต่อไปนี้
7.1 กระบวนการสรรหาว่าจ้างบุคลากร โดยฝ่ายบุคคล ให้จัดเก็บข้อมูลของพนักงานทุกท่านในโปรแกรม หรือ Application ที่บริษัทฯกำหนดเท่านั้น โดยให้มีมาตรการปกป้อง และคุ้มครองความปลอดภัย และการเข้าถึงข้อมูลของพนักงานจากบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง และห้ามมิให้นำไปเผยแพร่ คัดลอก ดัดแปลง หรือดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานโดยเด็ดขาด หากไม่ได้รับหรือยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
7.2 กระบวนการงานขาย เช่า และ ให้บริการ ให้พนักงานขายหรือตัวแทนขาย จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า เข้าโปรแกรม หรือ Application ที่บริษัทฯกำหนดเท่านั้น กรณีเป็นเอกสารที่ต้องจัดเก็บไว้เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ให้จัดเก็บไว้ในฝ่ายที่กำหนดเท่านั้น เช่น ฝ่ายการเงิน หรือ ฝ่ายกฏหมาย และห้ามมิให้นำข้อมูลไปเผยแพร่ คัดลอก ดัดแปลง หรือดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้าออกนอกบริษัทฯ โดยเด็ดขาดหากไม่ได้รับคำอนุญาตหรือยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
7.3 บริษัทฯได้ตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเว็บไซต์ บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Application ต่างๆ และเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้บริการจากการถูกทำลายหรือบุกรุกจากผู้ไม่หวังดี หรือผู้ที่ไม่มีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูล จึงได้กำหนดมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเว็บไซต์ และ บริการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Application ให้สอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของบริษัทฯ (ประกาศครั้งที่ 15 นโยบายและข้อกำหนดการใช้ระบบสารสนเทศในบริษัทฯ)
7.4 บริษัทฯอาจทำความตกลงกับหน่วยงานหรือบุคคลภายนอกที่เป็นคู่ค้า คู่สัญญา พันธมิตรทางธุรกิจ หรือตัวแทนที่เป็นผู้จำหน่าย ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้างของบริษัทฯ เพื่อเป็นการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการ ระบบ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานหรือดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งบุคคลภายนอกดังกล่าวจะได้รับทราบข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นอย่างจำกัด โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้ ในกรณีที่บริษัทฯได้ว่าจ้างบุคคลภายนอกเพื่อให้ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เช่น การวิเคราะห์เชิงสถิติในกิจกรรมของเว็บไซต์หรือกิจการของบริษัทฯ การจัดส่งข้อมูลของส่งเสริมการขาย เป็นต้น บริษัทฯจะกำหนดให้บุคคลภายนอกที่ได้ว่าจ้างให้ดำเนินการเก็บรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ และกำหนดข้อห้ามเรื่องมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวไปใช้นอกเหนือจากกิจการของบริษัทฯหรือกิจกรรมของเว็บไซต์ โดยระบุเป็นข้อหนึ่งในสัญญา หรือเอกสารว่าจ้าง เป็นต้น
8. การมีส่วนร่วมของเจ้าของข้อมูล
บริษัทฯจะเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลส่วนบุคคลต่อเมื่อได้รับคำร้องขอจากเจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ ทายาท ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย โดยยื่นคำร้องขอและวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ ผ่านช่องทาง Email : info_PDPA@estarpcl.com ซึ่งทางบริษัทฯจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน ๓๐ วัน
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูล ผู้สืบสิทธิ ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือผู้พิทักษ์ตามกฎหมาย มีการคัดค้านการจัดเก็บ ความถูกต้อง หรือการกระทำใดๆ เช่น การแจ้งดำเนินการปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น บริษัทฯจะดำเนินการบันทึกหลักฐานคำคัดค้านดังกล่าวไว้เป็นหลักฐานด้วย
โดยบริษัทฯขอรับรองว่า จะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการที่บริษัทฯได้เก็บรวบรวมไว้ไปเผยแพร่ให้กับบุคคลภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์อื่นโดยเด็ดขาด เว้นแต่
1) บริษัทฯได้รับความยินยอมหรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล
1) บริษัทฯได้รับความยินยอมหรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล
2) เพื่อใช้ในการทำธุรกรรมของผู้ใช้บริการให้สำเร็จลุล่วง
3) เป็นไปตามที่กฎหมายให้อำนาจหรือกำหนดไว้ เช่น มีคำสั่งศาลให้เปิดเผยข้อมูลให้กับบุคคลภายนอกได้ เป็นต้น
9. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ได้มีการดำเนินการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งคณะทำงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวมใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
10. สิทธิในการเข้าถึง / แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง /ยกเลิก ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
1 เจ้าของข้อมูลสามารถขอเข้าถึง/ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บริษัทฯกำหนด
2 เจ้าของข้อมูลสามารถขอแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์ และทำให้ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลเป็นปัจจุบันได้
3 เจ้าของข้อมูลสามารถขอให้ระงับการใช้ข้อมูล ในการสื่อสารและโฆษณา ประชาสัมพันธ์ได้
เพื่อดำเนินการดังกล่าว ขอให้ท่านกรอกความประสงค์ในแบบฟอร์ม โดยคลิกที่ “แบบฟอร์มแจ้งความประสงค์ข้อมูลส่วนบุคคล”พร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจปฏิเสธคำขอของเจ้าของข้อมูลได้ตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามคำสั่งศาล
11. ช่องทางการติดต่อบริษัท
ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อบริษัทฯได้ตามช่องทางดังต่อไปนี้
บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 898 ชั้น 5 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
(1) Sale Office บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน)
(2) Download Application : STAR FAMILY ได้ทั้งในระบบปฏิบัติการ IOS และ Android
(3) Website : www.estarpcl.com
เบอร์ติดต่อ: 091-949-0000
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 898 ชั้น 5 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
อีเมล: info_PDPA@estarpcl.com
บริษัทฯ สัญญาว่าจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปเผยแพร่ให้กับบุคคลคภายนอก
นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“นโยบาย”) จะอธิบายเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์กล้องวงจรปิด (“CCTV”) ที่ บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า "บริษัท" "บริษัทฯ" หรือ "ของบริษัท") ได้ใช้อุปกรณ์ CCTV พร้อมกับระบบต่าง ๆ สำหรับการตรวจสอบภายในพื้นที่ใดเป็นการเฉพาะ รวมถึงพื้นที่รอบ ๆ บริเวณของสถานที่ อาคาร และพื้นที่ใด ๆ เพื่อการป้องกันชีวิต อนามัย และทรัพย์สิน โดยมีข้อมูลส่วนบุคคลของลูกจ้าง กรรมการบริษัท คู่ค้า ผู้ปฏิบัติงาน ผู้มาติดต่อ หรือบุคคลใดก็ตาม (ซึ่งจะรวมเรียกว่า “ท่าน” หรือ “ของท่าน) ที่ได้เข้าไปอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ทำการตรวจสอบภายในอาคารและพื้นที่ใด ๆ ดังกล่าว นอกจากนี้ นโยบายฉบับนี้อธิบายถึงวิธีการในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และการส่งหรือโอนย้ายข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ (“ข้อมูลส่วนบุคคล”) ของท่าน และระบุถึงวิธีการในการจัดการหรือการใช้ระบบ CCTV ของบริษัท
1. ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทใดบ้างที่บริษัทเก็บรวบรวม
บริษัทจะทำการเก็บภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่งซึ่งสามารถที่จะสามารถจดจำได้ว่าเป็นท่าน เสียงของท่าน รวมถึงทรัพย์สินของท่าน อาทิ ยานพาหนะ เมื่อเข้าไปในพื้นที่ที่ได้ทำการตรวจสอบภายในสถานที่ อาคาร และพื้นที่ใด ๆ ของบริษัท ผ่านระบบและอุปกรณ์ CCTV (“ข้อมูลจาก CCTV”)2. เหตุใดบริษัทจึงเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
2.1 บริษัทอาจทำการรวบรวม เก็บภาพ ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการบันทึกการเก็บบันทึก การปรับเปลี่ยน การแก้ไข การดัดแปลง การทำลาย การลบ การกู้คืน การรวม การทำสำเนา การส่งผ่าน การเก็บรักษา การถอน การปรับปรุง การเพิ่มเติม ต่อข้อมูลจาก CCTV เกี่ยวกับท่านและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน สำหรับ "วัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV" ตามรายการที่ระบุไว้ด้านล่าง จะกระทำบนฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์ต่อชีวิต เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์สาธารณะ ตามความยินยอมที่ได้รับ หรือตามฐานอื่นใดที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่บังคับใช้ในประเทศไทย (โดยที่ผลประโยชน์เหล่านั้นจะไม่เป็นการก้าวล่วงต่อสิทธิและผลประโชน์ของบุคคลใด) ซึ่งอาจพิจารณาได้ตามกรณีดังนี้• เพื่อปกป้องชีวิต ร่างกาย ความปลอดภัยอนามัยส่วนบุคคล และ/หรือทรัพย์สินส่วนตัวของท่าน
• เพื่อควบคุมการเข้ามาภายในอาคารและเพื่อการรักษาความปลอดภัยของอาคาร บุคลากร พนักงาน และผู้มาติดต่อ รวมทั้งทรัพย์สินและข้อมูล
ของบริษัทที่ตั้งอยู่หรือเก็บไว้ในสถานที่นั้น ๆ
• เพื่อการปกป้อง/ป้องกันสถานที่ อาคาร พื้นที่ต่าง ๆ และทรัพย์สินของบริษัท จากความเสียหาย การหยุดชะงัก การทำลาย และอาชญากรรมอื่น ๆ
• เพื่อช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพที่เกิดขึ้นในขณะทำการลงโทษทางวินัยหรือการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์
• เพื่อช่วยเหลือในการสืบสวนสอบสวนหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการร้องเรียน และการแจ้งเบาะแส
• เพื่อนำไปใช้ในการพิสูจน์หรือหักล้างในการดำเนินคดีทางแพ่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีแรงงาน
• เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท และ/หรือ การให้ความร่วมมือกับศาล หน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานที่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย สำหรับการใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน พวกบริษัทเล็งเห็นว่าการใช้ระบบ CCTV เป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามภาระหน้าที่เหล่านั้นได้
• เพื่อการใช้สิทธิของบริษัทหรือปกป้องผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทในกรณีที่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพื่อระงับยับยั้ง ป้องกันและตรวจจับการประพฤติมิชอบ อาชญากรรม หรือการฝ่าฝืนกฎหมาย ติดตามเหตุการณ์ เพื่อป้องกันและรายงานการประพฤติมิชอบหรืออาชญากรรมในร้านค้าของบริษัทและเพื่อปกป้องความปลอดภัยและความมั่นคงของธุรกิจของบริษัท พวกบริษัทจะพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสมดุลระหว่างผลประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลที่สาม และสิทธิขั้นพื้นฐานและเสรีภาพของท่านที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องข้อมูลบนระบบ CCTV ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ตามแต่กรณี บริษัทจะพยายามระบุถึงขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อให้เกิดความสมดุลที่เหมาะตามแต่สมควร
2.2 บริษัทจะติดตั้งอุปกรณ์ CCTV ที่จุดสำคัญภายในสถานที่ อาคารและพื้นที่ต่าง ๆ ของบริษัท ยกเว้นบางพื้นที่ เช่น ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องสุขา และห้องอาบน้ำ
2.3 ระบบ CCTV ของบริษัทเปิดใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นในกรณีที่อุปกรณ์/ระบบเกิดความขัดข้อง และ/หรือต้องทำการซ่อมบำรุง
2.4 บริษัทจะจัดวางป้ายตามความเหมาะสมในสถานที่ที่มีการใช้งานระบบ CCTV
3. บุคคลใดที่อาจได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3.1 บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านในระบบ CCTV ไว้เป็นความลับ และจะทำการเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเฉพาะเพียงบริษัทลูก บริษัทในเครือของบริษัท บุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่จะถูกคัดเลือกอย่างระมัดระวังในเวลานี้หรือในอนาคต ผู้ได้รับอนุญาต พันธมิตรกิจการร่วมค้า และ/หรือผู้ให้บริการ (ซึ่งอาจตั้งอยู่ในต่างประเทศ) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV ตามที่ระบุไว้ในนโยบายนี้3.2 บุคคลภายนอกซึ่งบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลจากระบบ CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับท่าน ซึ่งรวมถึงการเปิดเผยต่อบริษัทในเครือของบริษัท (เป็นส่วนหนึ่งของประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและประโยชน์ของบริษัทในเครือของบริษัท เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV) หน่วยงานภาครัฐ และ/หรือองค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแล (เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อสนับสนุนหรือช่วยเหลือแก่องค์กรบังคับใช้กฎหมายในเรื่องการสอบสวนและดำเนินคดีทางแพ่งหรือทางอาญา) และผู้ให้บริการบุคคลที่สาม (ตามขั้นตอนที่จำเป็นของบริษัทเพื่อให้แน่ใจว่า บริษัทจะให้การคุ้มครองต่อสุขภาพและความปลอดภัยส่วนบุคคล และทรัพย์สินของท่าน) อย่างไรก็ตามการเข้าถึงข้อมูลระบบ CCTV นั้น อาจเป็นการเข้าถึงหรือเปิดเผยได้เท่าที่จำเป็นเพื่อจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งอยู่ภายใต้หนึ่งในวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในข้อ 3.2 นี้ หรือเพื่อตอบสนองการร้องขอของบุคคลตามกฎหมายภายใต้ข้อ 2.1
4. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจเปิดเผยหรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนที่จำเป็นสำหรับสุขภาพ ความปลอดภัยส่วนบุคคลและทรัพย์สินของท่าน) ไปยังผู้ให้บริการบุคคลที่สามที่อยู่นอกประเทศไทย และการเปิดเผยหรือถ่ายโอนดังกล่าวจะกระทำต่อเมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน หรือมีพื้นฐานตามกฎหมายอื่นที่บังคับให้กระทำตามที่กฎหมายอนุญาตไว้ (เช่นเพื่อปฏิบัติตามข้อกำหนดของสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน) โดยที่ประเทศปลายทางดังกล่าวอาจมีหรือไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย อย่างไรก็ตาม บริษัทจะทำให้มั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้กระทำตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้วก่อนจะดำเนินการโอนข้อมูลส่วนบุคคลนั้น5. มาตรการรักษาความปลอดภัย
5.1 บริษัทจะจัดให้มีระบบเทคนิค และการบริหารจัดการมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันข้อมูลจากระบบ CCTV และข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านจากการถูกทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้งาน การเปลี่ยนแปลง หรือการเปิดเผย โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยผิดกฎหมาย หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต5.2 บริษัทจะทบทวนและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทเป็นครั้งคราวตามความจำเป็น หรือเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพและเหมาะสม สอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายขั้นต่ำ ตามที่กำหนดโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
6. ระยะเวลาในการที่บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้มาจากระบบ CCTV ไว้ในระบบของบริษัทตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การตรวจสอบโดย CCTV หากบริษัทไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายที่ใช้บังคับในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV อีกต่อไป บริษัทจะทำการลบข้อมูลเหล่านั้นออกจากระบบและการบันทึกของบริษัท อย่างไรก็ตามบริษัทอาจทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากระบบ CCTV เป็นระยะเวลานานขึ้น ตัวอย่างเช่น ทำการเก็บไว้จนกว่าจะสิ้นสุดของการดำเนินการตามกฎหมาย หรือมีกฎหมายที่กำหนดระยะเวลาในการเก็บข้อมูลที่ยาวนานกว่า หรือมีข้อมูลระบบ CCTV บางอย่างซึ่งต้องทำการเก็บรักษาไว้สำหรับการดำเนินการต่อเหตุการณ์บางเรื่อง หรือเพื่อตอบสนองต่อข้อเรียกร้องจากบุคคลหนึ่งบุคคลใดในการใช้สิทธิตามกฎหมาย7. ท่านมีสิทธิอย่างไรเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ท่านอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึง และ/หรือขอรับสำเนา โอนย้าย แก้ไข ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนในข้อมูลส่วนบุคคล บางประเภทของท่านที่บริษัทมี ระงับและ/หรือคัดค้านกิจกรรมบางประเภทที่บริษัทมีและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่การดำเนินการใดของบริษัทกระทำภายใต้ความยินยอมของท่าน ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมของท่านได้ แต่อาจเป็นสาเหตุให้บริษัทไม่สามารถให้บริการของบริษัทแก่ท่านได้อย่างเต็มที่ ท่านอาจมีสิทธิร้องขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่านได้อย่างไร อีกทั้งยังอาจยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายที่บังคับใช้8. รายละเอียดการติดต่อบริษัท
หากท่านมีข้อซักถามหรือข้อสงสัยประการใด หรือมีความประสงค์ที่จะสิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลระบบ CCTV โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่บมจ.อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท (สำนักงานใหญ่)
• ที่อยู่ : เลขที่ 898 ชั้น 5 อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ถ.เพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
• อีเมล : info_PDPA@estarpcl.com
• เบอร์โทร : 091 949 0000
• Website : https://www.estarpcl.com/privacy-policy
บริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ (“บริษัท”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัทจึงจัดทำประกาศเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้ (Cookies Notice) เพื่อให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ (“ท่าน”) ได้ทราบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลคุกกี้ของบริษัท
1. คุกกี้คืออะไร
“คุกกี้ (Cookies)” หมายถึง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (text file) ที่จะถูกติดตั้ง หรือบันทึกลงบนคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของท่านเมื่อท่านเข้าชมเว็บไซต์ คุกกี้จะจดจำข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน2. วัตถุประสงค์ในการใช้คุกกี้
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ จากผู้เข้าเยี่ยมชมทุกรายผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีที่ใกล้เคียง และบริษัทใช้คุกกี้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้าถึงบริการของบริษัท ผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงพัฒนาประสิทธิภาพในการใช้งานบริการของบริษัททางอินเทอร์เน็ต โดยจะใช้เพื่อกรณี ดังต่อไปนี้2.1 เพื่อช่วยจดจำข้อมูลเกี่ยวกับเบราว์เซอร์และการตั้งค่าของท่าน และช่วยให้ท่านเข้าใช้บริการเว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มประสบการณ์และความพึงพอใจในการใช้บริการ
2.2 เพื่อช่วยประเมินประสิทธิภาพและผลการให้บริการเว็บไซต์ที่ยังทำงานได้ไม่ดีและควรปรับปรุง
2.3 เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลการเข้าเยี่ยมชมและใช้บริการเว็บไซต์ ที่จะทำให้บริษัทเข้าใจว่าผู้คนมีความสนใจอะไร
2.4 เพื่อให้บริษัทได้ส่งมอบประสบการณ์ในการใช้บริการเว็บไซต์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับท่าน รวมถึงช่วยให้ สามารถสื่อสารบริการและการประชาสัมพันธ์ได้ตรงตามสิ่งที่ท่านสนใจ
ในกรณีท่านไม่ให้ความยินยอมในการใช้คุกกี้หรือปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภท อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ และอาจทำให้ท่านไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่สามารถเข้าถึงการใช้งานในบางส่วนของเว็บไซต์บริษัท
3. ประเภทของคุกกี้ที่บริษัทใช้
บริษัทจะใช้คุกกี้เมื่อท่านได้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท โดยการใช้งานคุกกี้ของเราแบ่งออกตามลักษณะของการใช้งานได้ดังนี้3.1 คุกกี้ที่จำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้เป็นปกติ มีความปลอดภัย และทำให้ท่านสามารถเข้าใช้เว็บไซต์ได้ เช่น การ log in เข้าสู่เว็บไซต์ การยืนยันตัวตน ทั้งนี้ ท่านไม่สามารถปิดการใช้งานของคุกกี้ประเภทนี้ผ่านระบบของเว็บไซต์ของบริษัทได้
3.2 คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและสร้างโปรไฟล์เกี่ยวกับตัวท่าน เพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และนำเสนอเนื้อหา สินค้า/บริการ และ/หรือ โฆษณาที่เหมาะสมกับความสนใจของท่านได้ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้ คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจได้รับข้อมูลและโฆษณาทั่วไปที่ไม่ตรงกับความสนใจของท่าน
3.3 คุกกี้เพื่อช่วยในการใช้งาน (Functional Cookies)
คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยจดจำข้อมูลคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ท่านใช้เข้าชมเว็บไซต์ ข้อมูลการลงทะเบียนหรือ log in ข้อมูลการตั้งค่าหรือตัวเลือกที่ท่านเคยเลือกไว้บนเว็บไซต์ เช่น ภาษาที่แสดงบนเว็บไซต์ ที่อยู่สำหรับจัดส่งสินค้า เพื่อให้ท่านสามารถใช้งานเว็บไซต์ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องให้ข้อมูลหรือตั้งค่าใหม่ทุกครั้งที่ท่านเข้าใช้เว็บไซต์ ทั้งนี้ หากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้ประเภทนี้ ท่านอาจใช้งานเว็บไซต์ได้ไม่สะดวกและไม่เต็มประสิทธิภาพ
4. วิธีปิดคุกกี้
ท่านสามารถปิดการทำงานของคุกกี้ได้ โดยการตั้งค่าเบราว์เซอร์ของท่าน และตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเพื่อระงับการรวบรวมข้อมูลโดยคุกกี้ในอนาคตอย่างไรก็ตาม บริการบางอย่างบนเว็บไซต์จำเป็นต้องมีการใช้คุกกี้ หากท่านปิดการทำงานคุกกี้อาจทำให้ท่านใช้งานฟังก์ชันบางอย่างหรือทั้งหมดของบริการดังกล่าวได้อย่างไม่ราบรื่น